ฟิลิปส์เปิดมิติใหม่ เจาะตลาดสุขภาพ ชู “แอลอีดี ถนอมสายตา”
พร้อมจับมือยูนิเซฟ มอบประสบการณ์การเรียนรู้อย่างมีคุณภาพให้เยาวชนไทย
บริษัท ฟิลิปส์ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด พลิกแนวคิดย้ำสถานะผู้นำด้านนวัตกรรมแสงสว่าง ชูคุณสมบัติ “ถนอมสายตา” ในหลอดไฟฟิลิปส์แอลอีดี รับกระแสตื่นตัวด้านสุขภาพ ตอบโจทย์ความกังวลของผู้ปกครองเกี่ยวกับปัญหาสายตาและพัฒนาการเรียนรู้ของเด็ก พร้อมรับไลฟ์สไตล์ดิจิทัลของคนยุคใหม่ ด้วยการออกแบบพิเศษที่ใส่ใจสุขภาพดวงตา ผ่านการรับรองด้วยมาตรฐานทั้งในยุโรปและประเทศไทย โดยได้เปิดตัวคุณสมบัติพิเศษดังกล่าวภายในงาน “ฟิลิปส์ แอลอีดี…ถนอมสายตา” ในวันพุธที่ 20 กันยายน 2560 ณ ลานอีเดน ชั้น 2 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมศิลปินนักร้องที่มาร่วมแชร์ประสบการณ์การดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นมอส ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ ที่มาพร้อมน้องโสน สิสราญ ปฐวีกานต์ และลิเดีย ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา รวมไปถึงเรื่องราวสาระความรู้จากนักทัศนมาตรชื่อดัง ดร.วุฒิพงษ์ พึงพิพัฒน์
เฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านแสงสว่าง ที่มีเป้าหมายหลักในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน เราได้คิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์แอลอีดีของเราให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นในด้านการประหยัดพลังงาน หรืออายุใช้งานที่ยาวนาน และด้วยความใส่ใจในคุณภาพของประสบการณ์การใช้งานในทุกมิติ ผลิตภัณฑ์แอลอีดีของเราได้รับการออกแบบให้มีคุณภาพแสงที่ช่วยถนอมสายตา ด้วยนวัตกรรมที่ผ่านการรับรองมาตรฐานในระดับโลก ได้แก่องค์กรระหว่างประเทศด้านไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (International Electrotechnical Commission: IEC) โดยผ่านการทดสอบมาตรฐานความปลอดภัยต่อดวงตา (Eye Safety) IEC 62471 โดยคุณสมบัติถนอมสายตา (Eye comfort) ของฟิลิปส์เป็นหนึ่งในสิ่งที่ฟิลิปส์ได้ลงทุนพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากการสำรวจวิจัยในตลาดผู้ใช้งานทั่วโลก ไปจนถึงการก่อตั้ง “ศูนย์ทดสอบคุณภาพแสงไฟ (Lighting test centers)” ของฟิลิปส์ขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่า ผู้ใช้งานจะได้รับประสบการณ์แสงที่มีคุณภาพดีและเหมาะสมที่สุดจากเรา”
ความตระหนักรู้เรื่องแสงและดวงตา
ฟิลิปส์ได้ทำการสำรวจในเดือนกรกฎาคม 2560 จากผู้เข้าร่วมกว่า 8,000 คน ใน 11 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทย พบว่า ปัญหาสายตาเป็นปัญหาที่ผู้ปกครองในเอเชียกังวลมากที่สุดถึง 52% โดยมีความเครียดและผลการเรียนเป็นปัญหาที่รองลงมาที่ 51% นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบว่า เด็กในเอเชียเป็นกลุ่มที่ใช้เวลาภายในอาคารมากที่สุดถึง 4.39 ชั่วโมงต่อวัน เมื่อเทียบกับเด็กในกลุ่มยุโรปตะวันตกที่ 3.68 ชั่วโมงต่อวัน โดยพฤติกรรมนี้ ไม่สอดคล้องกับคำแนะนำในรายงาน “ผลกระทบของภาวะสายตาสั้นและสายตาสั้นขั้นรุนแรง (The impact of myopia and high myopia)” ในเดือนมีนาคม ปีพ.ศ. 2558 ขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) ที่แนะนำให้คนใช้เวลากลางแจ้งอย่างน้อยสองชั่วโมงต่อวัน เพื่อผ่อนคลายสายตาด้วยแสงธรรมชาติ และลดความเสี่ยงจากภาวะสายตา โดยในรายงานเดียวกัน องค์การอนามัยโลกได้คาดการณ์ไว้ว่า ทุกหนึ่งในสองคนจะมีปัญหาสายตาสั้นภายในปีพ.ศ. 2593 ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่ระบุว่า เด็กไทยอายุ 3-12 ปี ในปีพ.ศ. 2554-2555 มีภาวะสายตาผิดปกติประมาณ 5.7 แสนคน ทำให้เด็กจำนวนถึง 3.5 แสนคนจำต้องแก้ไขด้วยการใส่แว่น
กระนั้น แม้ว่าจะมีความตระหนักรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงด้านดวงตาในกลุ่มผู้ปกครอง และมีความพยายามในการป้องกันในรูปแบบต่างๆ เช่น การจำกัดเวลาในการใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ดิจิทัลต่างๆ ซึ่ง 83% ของผู้ปกครองชาวไทยเห็นตรงกันว่าสามารถช่วยลดปัญหาสายตาสั้นได้ จากผลสำรวจ กลับพบว่ามีเพียง 42% ที่เลือกใช้แสงไฟที่อ่อนโยนต่อดวงตา และมีเพียง 32% เท่านั้นที่นึกถึงความนุ่มนวลของแสงเวลาซื้อหลอดไฟ
มาตรฐานความสบายตา (Comfort criteria)ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดเพื่อผู้ใช้งาน ฟิลิปส์ได้จัดตั้ง “ศูนย์ทดสอบคุณภาพแสงไฟ (Lighting test centers : LTC)” ในยุโรปและเซี่ยงไฮ้ เพื่อทดสอบหลอดไฟแอลอีดีให้เป็นไป “มาตรฐานความสบายตา
(Comfort criteria)” เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมแอลอีดีกับคุณสมบัติถนอมสายตา
ปัจจัยที่ควรคำนึงถึงเมื่อพิจารณาว่าหลอดไฟแอลอีดีที่ดีนั้นมีคุณสมบัติถนอมสายตา ประกอบด้วย 4 ปัจจัย
ได้แก่
• การสั่นกระพริบของแสง (Flicker) ทำให้เกิดการรับรู้ถึงภาพที่ไม่มั่นคง สั่นไหว ซึ่งเกิดจากแสงและการกระจายแสงที่มีความผันผวน ขึ้นๆ ลงๆ ไม่สม่ำเสมอ ซึ่งในหลอดไฟที่ไม่ได้คุณภาพอาจทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้งานได้ในระยะยาว เช่น ก่อให้เกิดอาการตาล้า ปวดหัว หรือปวดไมเกรน เป็นต้น แต่สำหรับหลอดไฟ ฟิลิปส์แอลอีดีนั้นได้ผ่านการทดสอบมาตรฐานจากองค์กรระหว่างประเทศด้านไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (International Electrotechnical Commission: IEC) ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยต่อดวงตา (Eye comfort) IEC 62471
• สโตรโบคอสปิค เอฟเฟคต์ (Strobocospic effect) หมายถึง การมองเห็นการเคลื่อนไหวของวัตถุที่ผิดเพี้ยนจากการสั่นของแสงที่ไม่สัมพันธ์กับความเร็วของการเคลื่อนไหว
• แสงจ้า (Glare) คือแสงส่องสว่างที่เข้าตามากเกินไป ทำให้มองเห็นได้ไม่ชัดเจนหรือไม่สบายตา ซึ่งฟิลิปส์ได้ออกแบบนวัตกรรมกรองแสง (Filter) สำหรับหลอดไฟฟิลิปส์แอลอีดี ทำให้แสงที่สะท้อนสู่ดวงตาผู้ใช้งานมีความสว่างที่นุ่มนวล พอดีกับการใช้งาน
• แสงสีฟ้า (Blue light) เป็นแสงที่ปนอยู่กับแสงขาว มีอยู่ในธรรมชาติ ซึ่งหากดวงตาได้รับในปริมาณที่มากเกินไปจะทำให้เกิดอันตรายได้ ตั้งแต่ผลเสียจากคุณสมบัติยับยั้งการหลั่งสารเมลาโทนิน ที่ส่งผลต่อคุณภาพการนอน ไปจนถึงการทำลายจอประสาทตา
ด้วยความใส่ใจในมาตรฐานแสงไฟคุณภาพ ผู้ใช้งานจึงมั่นใจได้ว่า หลอดไฟฟิลิปส์แอลอีดีผ่านการทดสอบมาตรฐานความปลอดภัยต่อดวงตา (Eye comfort) IEC 62471 จะช่วยถนอมสายตาผู้ใช้งานตลอดระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนาน พร้อมประหยัดพลังงาน เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดจากฟิลิปส์
แสงแห่งโอกาสและความห่วงใย (Light for the Bright Future)
เพราะการเรียนรู้ที่มีคุณภาพประกอบด้วยหลายปัจจัย ฟิลิปส์เล็งเห็นถึงความสำคัญในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมกันของเยาวชนไทย จึงจัดตั้งโครงการ “แสงแห่งโอกาสและความห่วงใย (Light for the Bright Future)” ขึ้น โดยร่วมกับองค์กรยูนิเซฟ เป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีคุณภาพให้กับเยาวชนที่ขาดแคลน พร้อมเชิญชวนผู้บริโภคร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือ ผ่านการจัดจำหน่ายแพ็คเกจพิเศษ “แพ็คเพื่อน้อง” ตั้งแต่เดือนกันยายน – ธันวาคม พ.ศ. 2560 ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ซึ่งรายได้ส่วนหนึ่งจากการจัดจำหน่ายจะมอบให้องค์กรยูนิเซฟ เพื่อนำไปต่อยอดกับโครงการพัฒนาและสนับสนุนการศึกษาของนักเรียนในโรงเรียนยากไร้ โดยในโอกาสนี้ ฟิลิปส์ได้จัดทำภาพยนตร์สั้นบนโลกออนไลน์ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของเด็กๆ ในพื้นที่ห่างไกลอีกด้วย
“อุปสรรคในการเรียนรู้ของเยาวชนไทยในหลายพื้นที่ในขณะนี้มีมากไปกว่าการขาดแคลนหนังสือและบุคลากร เพราะยังรวมไปถึงการขาดแคลนสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเรียนรู้ ด้วยความเชื่อมั่นในโอกาสที่เท่าเทียมกันในการได้รับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดี ฟิลิปส์จึงต้องการเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยเติมเต็มและผลักดันพัฒนาการเรียนรู้ของเยาวชนผ่านความร่วมมือกับองค์กรยูนิเซฟ และผลิตภัณฑ์แอลอีดีถนอมสายตา เรามุ่งหวังว่าฟิลิปส์แอลอีดีถนอมสายตาจะได้เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งที่จะทำให้เด็กในวัยเรียนทุกคนมีสมาธิ มุ่งมั่นในการพัฒนาตนเอง เพื่ออนาคตที่ดีกว่าในภายภาคหน้า” นายเฉลิมพงษ์กล่าวปิดท้าย
แพ็คเกจพิเศษหลอดไฟฟิลิปส์แอลอีดี “แพ็คเพื่อน้อง” มีจำหน่ายทั้งหมด 5 รุ่น สามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ตั้งแต่เดือนกันยายน – ธันวาคม 2560 ดังนี้
• หลอดฟิลิปส์แอลอีดี อีโคฟิต สีคูล เดย์ไลต์ 16w (Philips LED Eco Fit, Cool daylight 16w): แพ็คคู่สุดคุ้ม ราคา 269 บาท
• หลอดฟิลิปส์แอลอีดี สีคูล เดย์ไลต์ 10.5w (Philips LED Bulb, Cool daylight 10.5w): แพ็คคู่สุดคุ้ม ราคา 299 บาท
• หลอดฟิลิปส์แอลอีดี สีวอร์ม ไวต์ 10.5w (Philips LED Bulb, Warm white 10.5w): แพ็คคู่สุดคุ้ม ราคา 299 บาท
• หลอดฟิลิปส์แอลอีดี สีคูล เดย์ไลต์ 8w (Philips LED Bulb, Cool daylight 8w): ซื้อ 3 แถม 1 แพ็คประหยัดสุดคุ้ม ราคา 445 บาท
• หลอดฟิลิปส์แอลอีดี สีคูล เดย์ไลต์ 13w (Philips LED Bulb Cool daylight 13w): ซื้อ 3 แถม 1 แพ็คประหยัดสุดคุ้ม ราคา 595 บาท
เกี่ยวกับ Philips Lighting
Philips Lighting (Euronext Amsterdam ticker: LIGHT) เป็นบริษัทชั้นนำด้านไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่าง ที่ผนวกความเข้าใจในผลกระทบด้านบวกของแสงไฟที่มีต่อวิถีชีวิตของผู้คนเข้ากับความรู้ด้านเทคโนโลยีเชิงลึก ทำให้สามารถสร้างสรรค์โซลูชั่นเพื่อแสงสว่างแบบดิจิตัล สร้างมูลค่าทางธุรกิจ ส่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่หลากหลาย และช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต ตอบสนองตลาดของผู้บริโภคและภาคธุรกิจด้วยอุปกรณ์แสงสว่าง LED ที่มีพลังงานประสิทธิภาพสูงกว่าบริษัทอื่นๆ เป็นผู้นำอุตสาหกรรมในด้านเทคโนโลยีแสงสว่างอัจฉริยะ และใช้ประโยชน์จาก Internet of Things ในการยกระดับให้แสงสว่างให้เป็นมากกว่าการให้ความสว่าง เพื่อสร้างบรรยากาศใหม่ให้กับบ้าน และพื้นที่อาคารต่างๆ ได้ ในปี พ.ศ. 2559 บริษัทฯ มียอดขายกว่า 7.1 พันล้านยูโร และมีพนักงานกว่า 34,000 คนทั่วโลก สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข่าวฟิลิปส์ อิเล็กทรอนิกส์ ได้ที่ Newsroom, TwitterและLinkedIn. และสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนักลงทุนสัมพันธ์ได้ที่หน้า Investor Relations
Leave a Reply