ซีเมนส์ (Siemens) จัดแสดงผลงานด้านธุรกิจที่ส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนในประเทศไทย
นิทรรศการภาพถ่ายโดยฝีมือพนักงานถ่ายทอดเรื่องราวการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด Business to Society เพื่อความยั่งยืนของธุรกิจและสังคมร่วมกัน
กรุงเทพฯ 29 กันยายน 2560 – ซีเมนส์จัดงานนิทรรศการภาพถ่าย แฟลช ฟอร์เวิร์ด ไทยแลนด์ (Flash Forward Thailand) ครั้งแรก เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของซีเมนส์ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยโดยคำนึงถึงผลลัพธ์ด้านบวกที่ยั่งยืนแก่สังคมในทุกๆ ด้านของธุรกิจ
นิทรรศการภาพถ่ายที่จัดแสดง ณ Duke Contemporary Art Space นำเสนอภาพความสำเร็จของผลงานด้านธุรกิจและการตอบแทนสังคมของซีเมนส์ โดยภาพเหล่านี้ถ่ายโดยพนักงานของซีเมนส์ เพื่อบันทึกและแบ่งปันสิ่งที่บริษัทได้พัฒนาความก้าวหน้าในด้านต่างๆ ตลอดระยะเวลาที่เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยนานกว่า 117 ปี
“นิทรรศการภาพถ่ายนี้ได้ถ่ายทอดผลงานที่โดดเด่นและแสดงถึงแนวคิดของการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ โดยผนวกเข้ากับความคิดที่จะพัฒนาสังคมให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน ” นายมาร์คุส ลอเรนซินี่ ประธานและหัวหน้าฝ่ายบริหาร บริษัท ซีเมนส์ จำกัด ประเทศไทยกล่าว “ผลงานภาพถ่ายเหล่านี้เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าแนวคิดด้านการทำธุรกิจอย่างยั่งยืนของเรามีส่วนร่วมสนับสนุนการพัฒนาประเทศไทยมาโดยตลอด”
มร.มาร์คุส ลอเรนซินี ประธานและหัวหน้าฝ่ายบริหาร บีษัท ซีเมนส์ จำกัด ประเทศไทย พม่าและกัมพูชา
ซีเมนส์ได้สร้างแนวทางเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนเรียกว่า บิสซิเนส ทู โซไซตี้ (Business to Society) หรือการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงผลทางสังคม โดยอิงตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 ขององค์การสหประชาชาติ (United Nations 2030 Agenda for Sustainable Development) ทั้งนี้ ซีเมนส์ยังมุ่งเน้นด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน 5 ประการ ได้แก่ การพัฒนาเศรษฐกิจ ทุนมนุษย์ อันหมายถึงทักษะความรู้ ความสามารถของบุคลากร สภาพแวดล้อม คุณภาพชีวิต และชุมชน
“พนักงานทุกคนมีบทบาทสำคัญในผลักดันการดำเนินงานภายใต้แนวทาง การดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงผลทางสังคม บริษัทต้องการให้พนักงานของเรามีส่วนร่วมสร้างสรรค์คุณค่าเพื่อตอบแทนแก่สังคม ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อการทำงานร่วมกันภายในองค์กรเท่านั้น แต่ยังส่งผลด้านบวกในวงกว้างต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและสังคมทุกภาคส่วนอีกด้วย ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว ย่อมหมายถึงคุณประโยชน์แก่สังคมไทย อันเป็นประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของพนักงานนั่นเอง”
ทุกโครงการของซีเมนส์ ต้องดำเนินการภายใต้มาตรฐานด้านความยั่งยืน โดยมีแนวทางของ บิสซิเนส ทู โซไซตี้ เป็นเกณฑ์ในการประเมินโครงการต่างๆ ที่จะดำเนินการในประเทศไทย
“ประเด็นสำคัญคือความพยายามทุ่มเทเหล่านี้ล้วนมุ่งหวังคุณประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวมในระยะยาว เราดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมายาวนานมากกว่า 100 ปี และหวังว่าจะอยู่คู่สังคมไทยต่อไป และการจะทำเช่นนั้นได้ เราจึงต้องดูแลทั้งธุรกิจและสังคม อันเป็นที่มาของการจัดนิทรรศการภาพถ่ายในวันนี้” นายมาร์คุส กล่าว
ซีเมนส์มีผลงานในการดำเนินโครงการต่างๆ ที่เป็นการพัฒนาและสร้างประโยชน์ให้แก่ประเทศในหลากหลายด้าน อาทิ การช่วยให้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสาธารณะมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การส่งมอบกังหันลมให้กับโรงไฟฟ้าพลังงานลมแห่งแรกของไทย ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสะอาด มีผู้ป่วยหลายล้านคนที่ได้รับการดูแลจากผลิตภัณฑ์กลุ่มเฮลธ์แคร์ของซีเมนส์ และเนื่องจากซีเมนส์ให้ความสำคัญกับการลงทุนในบุคลากร ในแต่ละปีเราจึงจัดการฝึกอบรมเฉพาะทางให้แก่พนักงานไม่น้อยกว่า 600 คน อีกทั้งยังมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคมอื่นๆ อีกมากมาย เช่น การบริจาคคอมพิวเตอร์และหนังสือให้แก่โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล และการให้การศึกษาด้านวิทยาศาสตร์แก่โรงเรียนต่างๆ
นอกจากนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการเปลี่ยนผ่านประเทศสู่ยุคดิจิทัล ซีเมนส์ได้ลงทุนในนวัตกรรมและเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง โดยหนึ่งในตัวอย่างคือ การบ่มเพาะบุคลากรด้านวิศวกรรมของไทย ด้วยการพัฒนาศูนย์วิศวกรรมในประเทศเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก
แฟลช ฟอร์เวิร์ด ไทยแลนด์ เป็นหนึ่งแนวทางในการแสดงออกถึงการมีส่วนเสริมสร้างสังคมไทยของซีเมนส์ ในการสร้างสรรค์คุณประโยชน์ที่ยั่งยืนต่อประชาชนไทย
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับซีเมนส์ สามารถดูได้ทางอินเทอร์เน็ตจาก www.siemens.com
บริษัท ซีเมนส์ จำกัด (ประเทศไทย พม่า และกัมพูชา) เป็นบริษัทชั้นนำด้านวิศวกรรมไฟฟ้า ให้บริการด้านผลิตภัณฑ์ ระบบงาน และโซลูชั่น ตลอดห่วงโซ่คุณค่าระบบการจ่ายไฟฟ้า ด้วยสมรรรถนะด้านระบบอัตโนมัติและการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิทัล เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างสรรค์คุณค่า บริษัทร่วมสร้างความสัมพันธ์กับประเทศไทยทั้งในด้านเศรษฐกิจและด้านเทคนิคมานานมากกว่าศตวรรษ
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
ภัทรานิษฐ์ กนิษฐพรพัตร์
โทรศัพท์: 662 715 4045
อีเมล: patranit.kanitthapornpat@siemens.com
Leave a Reply