ชาวสุพรรณแห่เซลฟี่อุโมงค์ไฟยักษ์ที่วัดไผ่โรงวัว
ผู้ว่าเมืองสุพรรณฯปลื้มนักท่องเที่ยวแห่ชมการแสดงแสง สีเสียง “ภูมินรก –ภพสวรรค์” พร้อมเซลฟี่อุโมงค์ไฟยักษ์หรือ “อุโมงค์แห่งกาลเวลา” ที่ส่องสว่างระยิบระยับราวกับดวงดาวนับล้านดวงตลอดทั่วทางเดินความยาวกว่า 100 เมตร ในงาน”ย้อนอดีตวันวานสุพรรณบุรี วัดไผ่โรงวัว” ซึ่งจัดขึ้นวันอาทิตย์ที่ 2 ก.ค.เป็นวัน ณ. วัดไผ่โรงวัวอ.สองพี่น้อง
ว่าที่ร้อยตรี สุพีร์พัฒน์ จองพานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า จากการจัดงานย้อนอดีตวันวานสุพรรณบุรี วัดไผ่โรงวัวมาตั้งแต่วันที่ 28มิถุนายนเป็นต้นไปและจะมีไปถึงวันอาทิตย์นี้เป็นวันสุดท้าย ปรากฏว่ามีนักท่องเที่ยวทั้งในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงเดินทางมาเยี่ยมชมงานอย่างคับคั่ง โดยให้ความสนใจและฮือฮาเป็นพิเศษในการแสดง Light & Sound โชว์ภูมินรก –ภพสวรรค์ แดนอัศจรรย์หลังความตาย และพากันสนใจถ่ายรูปอุโมงค์ไฟยักษ์หรือ“อุโมงค์แห่งกาลเวลา” ซึ่งส่องสว่างระยิบระยับราวกับดวงดาวนับล้านดวงตลอดทั่วทางเดินความยาวกว่า 100 เมตร ซึ่งสร้างความภาคภูมิใจให้กับชาวสุพรรณบุรีเป็นอย่างมาก ที่นักท่องเที่ยวได้ให้ความสนใจร่วมกิจกรรมย้อนอดีตวันวานเมืองสุพรรณบุรีอย่างสนใจเป็นจำนวนมาก
สำหรับ การจัดงานดังกล่าว จังหวัดสุพรรณบุรีจัดขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติ และร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ รัชกาลที่ 9 ที่เสด็จพระราชดำเนินมาที่วัดไผ่โรงวัวเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2512 โดยครั้งนั้นทรงประกอบพระราชพิธียกพระเกตุมาลา “ พระพุทธโคดม ” ซึ่งชาวบ้านไผ่โรงวัว ถือว่าเป็นเหตุการณ์ในอดีตที่สำคัญ และเป็นมงคลสูงสุดที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่เปรียบมิได้ และสุพรรณบุรี ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูง มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและสินค้าบริการทางการท่องเที่ยวที่ตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวได้หลากหลาย จึงทำให้สุพรรณบุรี มีขีดความสามารถต่อการพัฒนาสู่การท่องเที่ยวที่ยั่งยืน และคาดหวังถึงการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ที่ตอบโจทย์การท่องเที่ยวในยุค 4.0 ได้ดี สานต่อนโยบายสำคัญของรัฐบาล ที่ต้องการบริหารจัดการ การท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดความยั่งยืนด้วยการต่อยอดจากสิ่งที่ท้องถิ่นมีอยู่ ให้เกิดความน่าสนใจเพิ่มขึ้น ภายใต้หลักการกระจายประโยชน์จากท่องเที่ยวคืนสู่ท้องถิ่น ด้วยการแสดงแสงสีเสียงสุดอลังการ ในรูปแบบ 3DMapping ชุด “ ๒๐๐๐ มหัศจรรย์สุพรรณบุรี ” พร้อมพลิกฟื้น 8 ตลาดเก่าชื่อดังเมืองสุพรรณ หวังปลุกกระแสการท่องเที่ยว หวัง สร้างรายได้ให้เมืองสุพรรณบุรี และกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง1 ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
สำหรับวัดไผ่โรงวัวหรือวัดโพธาราม เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสุพรรณบุรี ตั้งอยู่ในอำเภอสองพี่น้องห่างจากตัวจังหวัดสุพรรณบุรีประมาณ 43 กิโลเมตร หรือจากกรุงเทพฯ ประมาณ 70 กิโลเมตร ตามเส้นทางสายตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี มีทางแยกซ้ายก่อนถึงสามแยกลาดบัวหลวงเข้าสู่วัดไผ่โรงวัว วัดนี้สร้างเมื่อ พ.ศ. 2469 เป็นวัดที่มีพุทธ-ศาสนิกชน และบุคคลทั่วไป นิยมไปเที่ยวชมกันมาก หลวงพ่อขอม ได้ดำเนินการก่อสร้าง “พระพุทธโคดม” เป็นพระพุทธรูปโลหะสำริดองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2502 ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 17 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงยกพระเกตุมาลา เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2512
ภายในวัดมีสิ่งก่อสร้างเกี่ยวกับพุทธศาสนา ได้แก่ “สังเวชนียสถาน 4 ตำบล” คือสถานที่ที่พระพุทธเจ้า ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน กับงานประติมากรรมหรือภาพปั้นเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัตินรกภูมิ รวมทั้งวรรณคดีและประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ยังมี “พระธรรมจักร” หล่อด้วยทองสำริดใหญ่ที่สุดในโลก “พระกะกุสันโธ” พระพุทธรูปปูนปั้นขนาดใหญ่ที่สุดในโลก“ฆ้องและบาตร”ใหญ่ที่สุดในโลก“พระวิหารร้อยยอด”และสถาปัตยกรรมปูนปั้นสวรรค์-นรกที่แสดงภาพบาปบุญคุณโทษให้เห็นได้อย่างเป็นรูปธรรม เปรตในแบบต่างๆ และการลงโทษผู้ทำบาปในนรกอย่างน่ากลัว อุโมงค์ทะลุมิติไปถึงหน้าประตูยมโลก ต้นงิ้วต้นไม้ที่หนามแหลมคม กระทะทองแดง เป็นต้น
สำหรับการแสดงภูมินรก-ภพสวรรค์ ในส่วนของการแสดงโซนภูมินรกมีทั้งหมด 5 รอบ ดังนี้ รอบที่ 1 เวลา 16.00 น. รอบที่ 2 เวลา 17.00 น. รอบที่ 3 เวลา 18.00 น. รอบที่ 4 เวลา 19.00 น.และรอบที่ 5 เวลา 21.00 น.
ส่วนการแสดงโซนภพสวรรค์ มีทั้งหมด 5 รอบดังนี้ รอบที่ 1 เวลา 16.30 น. รอบที่ 2 เวลา 17.30 น. รอบที่ 3 เวลา 18.30 น. รอบที่ 4 เวลา 19.30 น. รอบที่ 5 เวลา 21.30 น.
*****************
Leave a Reply