“กระทรวงท่องเที่ยวฯ” ปลุกกระแสท่องเที่ยวเมืองสุพรรณ

“กระทรวงท่องเที่ยวฯ” ปลุกกระแสท่องเที่ยวเมืองสุพรรณ
จัดงาน“ย้อนอดีตวันวานสุพรรณบุรี วัดไผ่โรงวัว”

สุพรรณบุรีเตรียมจัดงานยิ่งใหญ่ “ย้อนอดีตวันวานสุพรรณบุรี วัดไผ่โรงวัว” เพื่อเทิดพระเกียรติ และ ร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ รัชกาลที่ 9 ด้วยการแสดงแสงสีเสียงสุดอลังการ ในรูปแบบ 3D Mapping ชุด “๒๐๐๐ มหัศจรรย์สุพรรณบุรี” พร้อมพลิกฟื้น 8 ตลาดเก่าชื่อดังเมืองสุพรรณ หวังปลุกกระแสการท่องเที่ยว หวัง สร้างรายได้ให้เมืองสุพรรณบุรี และกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง1 ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

ในภาพอาจจะมี 10 คน, คนที่ยิ้ม, ผู้คนกำลังยืน และ สถานที่ในร่ม

ในภาพอาจจะมี 5 คน

ในภาพอาจจะมี 4 คน, คนที่ยิ้ม, ผู้คนกำลังยืน

ในภาพอาจจะมี 4 คน, ผู้คนกำลังยืน

ในภาพอาจจะมี 5 คน, ผู้คนกำลังยืน, อาหาร และ สถานที่ในร่ม

ในภาพอาจจะมี ดอกไม้ และ อาหาร

ในภาพอาจจะมี ดอกไม้ และ อาหาร

ในภาพอาจจะมี 1 คน, สถานที่ในร่ม

นายพงษ์ภานุ เศวตรุนทร์. ปลัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองสุพรรณบุรีให้กลับอีกครั้ง รวมทั้งเป็นการเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ระหว่างวันที่ 28 มิถุนยาย – 2 กรกฎาคม 60 นี้ จังหวัดสุพรรณบุรีเตรียมจัดงาน “ย้อนอดีตวันวานสุพรรณบุรี” ขึ้น ณ.บริเวณวัดไผ่โรงวัว โดยหยิบยกเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินมาที่วัดไผ่โรงวัว มาถ่ายทอดสู่ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของจังหวัด และกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างรายได้ให้กับชาวสุพรรณบุรี รวมทั้งในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 โดยจังหวัดสุพรรณบุรีมีแนวคิดที่จะสนับสนุนการจัดงาน 2 ปีแรก และในปีถัดไปจะสนับสนุนให้ภาคเอกชนร่วมกันดำเนินการต่อไป ซึ่งจังหวัดสุพรรณบุรีคาดหวังให้การจัดงานนี้สามารถจัดติดต่อได้ทุกปีจนสามารถบรรจุงานนี้ให้อยู่ในปฏิทินท่องเที่ยวของประเทศไทย

ปลัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันจังหวัดสุพรรณบุรีถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูง มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและสินค้าบริการทางการท่องเที่ยวที่ตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวได้หลากหลาย จึงทำให้สุพรรณบุรีมีขีดความสามารถต่อการพัฒนาสู่การท่องเที่ยวที่ยั่งยืน และคาดหวังถึงการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ที่ตอบโจทย์การท่องเที่ยวในยุค 4.0 ได้ดี โดยตนมีนโยบายสำคัญที่ต้องการบริหารจัดการท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดความยั่งยืน ด้วยการต่อยอดจากสิ่งที่ท้องถิ่นมีอยู่ เพื่อให้เกิดความน่าสนใจเพิ่มขึ้น ภายใต้หลักการต้องกระจายประโยชน์จากท่องเที่ยวคืนสู่ท้องถิ่น

ด้านนายเสฐียรพงศ์ มากศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุร กล่าวว่า สุพรรณบุรีเป็นจังหวัดหนึ่งในกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 ซึ่งประกอบด้วย จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม และสุพรรณบุรี กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แหล่งวิถีชีวิตชุมชน แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมประเพณี และแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ แต่เสียดายที่ปัจจุบันแหล่งท่องเที่ยวบางแห่งได้ถูกลืมเลือนไปอย่างน่าเสียดาย ทางจังหวัดจึงอยากให้แหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวลืมเลือนไปกลับมามีชีวิตอีก
ด้านพระครูอนุกูล ปัญญากร เจ้าอาวาสวัดไผ่โรงวัว รองเจ้าคณะอำเภอสองพี่น้อง ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้เสด็จพระราชดำเนินมาที่วัดไผ่โรงวัว เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2512 โดยครั้งนั้น ทรงประกอบพระราชพิธียกพระเกตุมาลา “พระพุทธโคดม” พระพุทธรูปโลหะสำริดสีดำองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 17 ปี ในสมัยของหลวงพ่อขอม หรือ พระครูอุภัยภาดาทร อดีตเจ้าอาวาสรูปแรก ซึ่งชาวอำเภอสองพี่น้อง โดยเฉพาะชาวบ้านไผ่โรงวัว ถือว่าเป็นเหตุการณ์ในอดีตที่สำคัญ และเป็นมงคลสูงสุดที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่เปรียบมิได้

ส่วนด้านนายวิรัติ แข็งขัน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี ได้กล่าวถึงกิจกรรมภายในงานว่า ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่การแสดงแสง สี เสียง ที่เรียกว่า 3D Mapping ซึ่งเป็นการใช้ฉากกราฟฟิก 3 มิติ ร่วมกับนักแสดงกว่า 100 คน ในชื่อชุดว่า “๒๐๐๐ มหัศจรรย์สุพรรณบุรี” จัดแสดงวันละ1 รอบ ในเวลา 20.00 น .โดยนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับความเป็นมาของวัดไผ่โรงวัว และความรุ่งเรืองของจังหวัดสุพรรณบุรีตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน โดยการแสดงในฉากที่ 8 ซึ่งเป็นฉากสุดท้าย จะเป็นการแสดงเทิดพระเกียรติสดุดีพระมหากษัตริย์ไทย ตั้งแต่ครั้งสมเด็จพระนเรศวร กระทำยุทธหัตถี เพื่อรักษาเอกราชจนกระทั่งเข้าสู่ความรุ่งเรืองแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ในสมัยรัชกาลที่ 5 จวบจนรัชสมัยแห่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 โดยจะมีการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ไว้ด้วย เชื่อว่าทุกคนที่ได้เข้าชมจะต้องซาบซึ้งและประทับใจกับการแสดงชุดนี้อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ยังมีการแสดงLight & Sound “ภูมินรกภพสวรรค์ แดนอัศจรรย์ หลังความตาย” ที่น่าตื่นตาตื่นใจ จำนวน 5 รอบต่อวัน และยังนำร้านค้าจาก 8 ตลาดเก่าชื่อดังเมืองสุพรรณ เช่น ตลาดสามชุก ตลาดเก้าห้อง ตลาดศรีประจันต์ ตลาดบางลี่ ฯลฯมารวมไว้อยู่ในที่เดียวกันด้วย เพื่อให้ทุกคนได้เซฟฟี่ และช้อปของอร่อยได้อย่างเพลิดเพลินใจ พร้อมด้วยความบันเทิงจากการแสดงคอนเสิร์ต “ศิลปินถิ่นสุพรรณ” และนักร้องชื่อดังที่สับเปลี่ยนกันมาอย่างต่อเนื่องทุกวัน ร่วมด้วยการแสดงจากหมู่บ้านชาติพันธุ์ต่างๆ นิทรรศการ “เมืองแห่งศิลปิน” และนิทรรศการกลุ่มจังหวัดภาคกลาง ตอนล่าง 1 ซึ่งการจัดกิจกรรมต่างๆ ทั้งหมดนี้ จัดให้เข้าชมฟรีตลอดงาน ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม 2560

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*