สถาบันไอเอ็มซีระดม 17 กูรูจัดสัมนา Blockchain แห่งปี กระตุ้นองค์กรไทยตามทันก่อนโลกเปลี่ยนแรงภายใน 2-3 ปีนี้
– ผลการสำรวจทักษะบุคลากรด้านไอทีไทย พบ 40% เข้าใจและเริ่มใช้เทคโนโลยี BigData โดยราว 56% ระบุว่าเคยใช้เทคโนโลยีคลาวด์
– ตัวเลขการใช้เทคโนโลยี Cloud และ Big Data ของบุคลากรไอทีไทยที่มีมากขึ้น สวนทางกับ Blockchain ที่ยังมีสถิติต่ำ
– วิทยากรทั้ง 17 คนที่ถูกเชิญมางานสัมนานี้จะบอกเล่าประเด็นจากประสบการณ์ตรงเรื่อง Blockchain หัวข้อครบทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ รวมถึงข้อบังคับ และกฏหมายที่ต้องเตรียมปรับเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลง
– ในตลาดโลก การสำรวจพบว่า 15% ของธนาคารใหญ่ระดับโลกกำลังมีแผนประยุกต์ใช้ Blockchain เต็มรูปแบบในปีนี้ โดยอัตราการนำ Blockchain ไปใช้ (adoption rate) เชื่อว่าจะเพิ่มจำนวนเป็น 65% ใน 3 ปี ส่งให้มูลค่าตลาด Blockchain ทั่วโลกคาดว่าจะขยายตัวจาก 210 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2016 มาเป็น 2.3 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2021
กรุงเทพฯ 30 พฤษภาคม 2560 – – สถาบันไอเอ็มซีเผยผลสำรวจทักษะบุคลากรด้านไอทีในประเทศไทย พบอัตราการใช้เทคโนโลยี Cloud และ Big Data ในองค์กรไทยเพิ่มสูงขึ้นชัดเจน แต่สถิติการตอบรับ Cloud และ Big Data ที่สูงขึ้นสวนทางกับเทคโนโลยีใหม่อย่าง Blockchain ที่อยู่ในระดับต่ำมาก สะท้อนว่าบุคลากรไทยยังต้องได้รับการผลักดันต่อเนื่องเรื่อง Blockchain เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างแข็งแกร่ง
ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อำนวยการ สถาบันไอเอ็มซี อธิบายว่า Blockchain เป็นเทคโนโลยีที่องค์กรไทยควรตระหนักและนำไปใช้ เพราะ Blockchain นั้นสามารถประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย ไม่เพียงการโอนเงินที่ปลอดภัยและรวดเร็ว แต่ยังลดโอกาสที่ไวรัสหรือมัลแวร์จะทำลายข้อมูลในคอมพิวเตอร์ด้วย
“Blockchain เป็นเทคโนโลยีที่ทุกคนให้ความสนใจ เพราะถูกมองว่าจะเหมือนกับอินเทอร์เน็ตที่เข้ามาเปลี่ยนโลกทั้งใบ อย่างมัลแวร์ WannaCry ถ้ามี Blockchain ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะข้อมูลถูกจัดเก็บหลายที่”
สำหรับ Blockchain นั้นเป็นเทคโนโลยีการเก็บข้อมูลแบบกระจายหลายที่จนทำให้เกิดความปลอดภัยสูง จุดเด่นนี้ทำให้เทคโนโลยี Blockchain มีแผนถูกนำไปใช้ในหลายอุตสาหกรรมอย่างจริงจัง
จุดเด่นของ Blockchain ยังอยู่ที่การตรวจสอบความเคลื่อนไหว ซึ่งจะทำให้องค์กรรับรู้ข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงได้อย่างโปร่งใส ทำให้ Blockchain ไม่ได้เหมาะกับเพียงระบบโอนเงินเท่านั้น แต่สามารถนำมาใช้ได้กับทุกระบบที่ต้องการเก็บข้อมูล ทั้งรูปแบบจำกัดเฉพาะคนในองค์กร (Private) และแบบเปิดกว้างต่อสาธารณชน (Public)
ทั้งหมดนี้ทำให้ไม่น่าแปลกใจ เมื่อการสำรวจปี 2016 ของ IBM พบว่า 15% ของธนาคารใหญ่ระดับโลก กำลังมีแผนประยุกต์ Blockchain เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าอย่างเต็มรูปแบบในปีนี้ (2017) ก่อนที่ตัวเลขนี้จะขยับเพิ่มเป็น 65% ในอีก 3 ปีหรือปี 2019[1]
“สถาบันไอเอ็มซีจึงจัดอบรมสำหรับทั้งนักพัฒนาและผู้บริหาร เราต้องการให้หลายส่วนได้เรียนรู้ที่มาที่ไป เราเชิญวิทยากร 17 คนซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เคยสัมผัส Blockchain มาแล้วและพบประเด็นจากประสบการณ์ตรง หัวข้อของเราครบทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ รวมถึงข้อบังคับ และกฏหมายที่ต้องเตรียมปรับเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลง” ดร.ธนชาติระบุ “หลายอุตสาหกรรมยังไม่ทราบว่า Blockchain จะส่งผลกระทบอย่างไร ต้องติดตั้งระบบอื่นหรือไม่ และต้องเตรียมตัวอย่างไร”
ดร.ธนชาติ ยกตัวอย่างว่าในอนาคต ฐานข้อมูลทะเบียนรถยนต์ก็อาจนำมาประยุกต์ใช้กับ Blockchain เพื่อให้ทุกคนได้เห็นการทำธุรกรรมที่โปร่งใสขึ้น เช่นที่รัฐบาลเอสโทเนียเริ่มนำ Blockchain มาเพิ่มความยืดหยุ่นในการให้บริการประชาชนได้ชัดเจนแล้ว
“อุตสาหกรรมการเงินเริ่มเห็นแล้ว ธนาคารเริ่มจะนำ Blockchain มาใช้กับระบบเก็บสัญญา โรงงานที่ส่งออกสินค้าไปอียูที่อยากพิสูจน์ตัวเองว่าดำเนินการถูกต้องตามหลักเกณฑ์ Blockchain ก็สามารถช่วยได้ ผมคิดว่า 2-3 ปีข้างหน้า เราจะเห็น Blockchain ในอุตสาหกรรมต่างๆมากขึ้น การแพทย์ก็จะเห็น ทั้งหมดเราจะพูดในงานสัมนานี้ โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวในเมืองไทย”
ในภาพรวม มูลค่าตลาดบริการที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี Blockchain ทั่วโลกคาดว่าจะขยายตัวจาก 210 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2016 มาเป็น 2.3 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2021 โดยเม็ดเงินบางส่วนจะหมุนวนในกลุ่มผู้ให้บริการโซลูชันและโครงข่ายเป็นหลัก[2]
สำหรับประเทศไทย ดร.ธนชาติ เชื่อว่าการลงทุนเรื่องเทคโนโลยี Blockchain ควรจะเริ่มที่การพัฒนาบุคลากร ซึ่งจะทำให้องค์กรไทยมีความพร้อมเพิ่มขีดความสามารถสู่ระดับโลก
“องค์กรไทยต้องลงทุนเรื่องคน ให้มีความเข้าใจ การเติบโตเรื่องอื่นจะตามมาทีหลัง คนต้องเข้าใจก่อนว่า Blockchain เข้ามาใช้ทำอะไรได้บ้าง แล้วก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลง”
สำรวจพบคนไทยพร้อม BigData มากขึ้น
ในขณะที่ Blockchain ยังเป็นเรื่องใหม่ของบุคลากรไอทีไทย การสำรวจล่าสุดของสถาบันไอเอ็มซีพบว่าคนไอทีไทยมีความพร้อมด้านเทคโนโลยีอย่าง BigData มากขึ้น สถิตินี้สะท้อนว่าสถาบันไอเอ็มซีช่วยประตุ้นตลาดขึ้นมาได้ส่วนหนึ่ง
“เราสุ่มตัวอย่างกลุ่มตัวอย่างมากกว่า 250 ราย พบว่าบุคลากรไอทีไทยมีความสนใจเรื่อง BigData มากขึ้น แต่เทคโนโลยีใหม่ เราก็ยังต้องพัฒนาต่อไป”
การสำรวจพบว่า กลุ่มตัวอย่างเกิน 40% เข้าใจและเริ่มใช้เทคโนโลยี BigData โดยราว 56% ระบุว่าเคยใช้เทคโนโลยี Cloud Computing บุคลากรกลุ่มนี้ราว 40% บอกว่าเคยใช้งาน Apache Hadoop และ 30% เคยใช้งาน NoSQL
สรุปแล้ว ผลการวิจัยนี้สะท้อนว่าบุคลากรไอทีไทยมีประสบการณ์การใช้เทคโนโลยี Cloud Computing และ Big Data ดีขึ้นมาก โดยภาษา Java และ PHP ยังเป็นที่นิยมใช้กันมากที่สุด แต่เมื่อพิจารณาถึงเทคโนโลยีใหม่อย่าง Spark, Microservices, Container หรือ DevOp ที่เริ่มใช้งานแพร่หลายในต่างประเทศ บุคลากรไอทีไทยยังไม่มีประสบการณ์มากนัก จึงควรที่จะต้องเร่งพัฒนาบุคลากรในด้านนี้ รวมถึงเรายังขาดประกาศนียบัตรระดับสากลที่จะทำให้บุคลากรไอทีไทยเป็นที่ยอมรับมากขึ้นด้วย.
*** สถาบันไอเอ็มซีจัดสัมมนายิ่งใหญ่แห่งปี Blockchain 2017: Unlocking Internet of ValueBlockchain คือ หนึ่งในเทคโนโลยีที่มีการกล่าวถึงกันมากที่สุด และจะเป็น The Next Big Thing ต่อจาก Internet สถาบันไอเอ็มซี (IMC Institute) จึงจะจัดงานสัมมนา Blockchain 2017: Unlocking Internet of Value ขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่บรรดาผู้บริหารระดับสูงขององค์กรต่างๆ ทั้ง CEO CIO CFO CTO ตลอดจนผู้จัดการไอที วิศวกรไอที นักพัฒนาซอฟต์แวร์ และผู้ที่สนใจการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีทุกคน ได้เข้าใจเทคโนโลยี Blockchain ตลอดจนตัวอย่างการประยุกต์ใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งครอบคลุมทุกๆ ด้าน ตั้งแต่ด้านการเงินการธนาคาร ภาครัฐบาล อุตสาหกรรม ค้าปลีก และบริการด้านการขนส่ง การพัฒนา Blockchain ในมุมมองของ Developer และแนะนําแนวทางให้เห็นการเริ่มต้นพัฒนา Blockchain ในองค์กร
วิทยากร* โดยผู้ที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในเรื่อง Blockchain จะมาให้ความรู้อย่างเจาะลึก รวมถึงวิทยากรที่เชี่ยวชาญการพัฒนา Blockchain ในรูปแบบของ Blockchain as a Service ตลอดจนกูรูในวงการไอทีอีกหลายท่าน พร้อมทั้งผู้เชี่ยวชาญในด้านกฎหมาย และกฎระเบียบต่างๆ เพื่อให้เห็นภาพของการนําไปใช้งานจริง
งานสัมมนาจะจัดขึ้นในวันที่ 14-15 มิถุนายน 2560 เวลา 09.00 – 17.00 น. (รวม 2 วัน) ณ โรงแรมสวิสโซเทล เลอ คองคอร์ด ค่าอบรมท่านละ 7,900 บาท (ไม่รวมภาษี) รวมอาหารและเครื่องดื่มตลอดวัน สอบถามเพิ่มเติมติดต่อคุณขวัญหทัย โทร 02-233-4732, 087-593-7974, 088-192-7975
Leave a Reply