รางรางวัล “ออสการ์” ปี 2016 “สปอตไลท์” คว้าภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ลีโอคว้านำชายตามคาด

สปอตไลท์” คว้าภาพยนตร์ยอดเยี่ยมออสการ์ครั้งที่ 88 งานประกาศรางวัลตุ๊กตาทอง “ออสการ์” ประจำปีนี้ ซึ่งจัดเป็นครั้งที่ 88 ได้รับเสียงวิจารณ์อย่างหนักเรื่องการขาดความหลากหลายทางสีผิวของผู้เข้าชิงรางวัล ขณะที่ภาพยนตร์เรื่อง “สปอตไลท์” คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ด้านลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ คว้ารางวัลในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม หลังเข้าชิงเป็นครั้งที่ 5 วันจันทร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 13:02 น. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 29 ก.พ. ว่าสถาบันศิลปะและวิชาการทางภาพยนตร์ของสหรัฐ ( เแอมพาส ) จัดงานประกาศผลและมอบรางวัลตุ๊กตาทอง “ออสการ์” ครั้งที่ 88 ที่ดอลบี เธียร์เตอร์ ในนครลอสแองเจลิส เมื่อวันอาทิตย์ โดยภาพยนตร์เรื่อง “สปอตไลท์” เรื่องราวที่สร้างจากเหตุการณ์จริงซึ่งได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ประจำปี 2546 ของการทำข่าวโดยทีมงานชื่อเดียวกันของหนังสือพิมพ์ เดอะ บอสตัน โกลบ ซึ่งเจาะลึกกรณีอื้อฉาวเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศในโบสถ์คาทอลิก คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม จากการเข้าชิงใน 6 สาขา โดยทีมผู้สร้างกล่าวขอบคุณทีมงานสปอตไลท์ตัวจริง และเรียกร้องให้โป๊ปฟรานซิสทรงสนพระทัยเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศในวาติกันให้มากขึ้น ขณะที่รางวัลซึ่งทุกฝ่ายให้ความสนใจมากที่สุดในปีนี้ คือรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นความสำเร็จของลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ นักแสดงวัย 41 ปี ผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการมานานถึง 25 ปี และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 จากผลงาน “เดอะ เรเวแนนท์” เรื่องราวของกลุ่มนักสำรวจแผ่นดินใหญ่ในสหรัฐเมื่อกว่า 100 ปีก่อน ที่ต้องทั้งเอาตัวรอดเพื่อตัวเองและล้างแค้นเพื่อคนในครอบครัว โดยดิคาปริโอใช้โอกาสนี้กล่าวกระตุ้นให้ประชาคมโลกเพิ่มความสนใจให้แก่ปัญหาโลกร้อนด้วย นอกจากนั้น เดอะ เรเวแนนท์ยังคว้าอีก 2 รางวัลสำคัญ คือผู้กำกับยอดเยี่ยม จากอเลฮันโดร กอนซาเลซ อินาร์ริตู ซึ่งสร้างสถิติชนะรางวัลนี้ 2 สมัยติดต่อกัน จากผลงาน “เบิร์ดแมน” เมื่อปีที่แล้ว และรางวัลถ่ายภาพยอดเยี่ยม โดยฝีมือของเอ็มมานูเอล ลูเบซกี ซึ่งสร้างสถิติเป็นคนแรกที่ชนะรางวัลนี้ 3 ปีติดต่อกัน จาก “กราวิตี” และ “เบิร์ดแมน” สำหรับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมเป็นของ “บรี ลาร์สัน” จาก “รูม” เรื่องราวของแม่และลูกชายซึ่งต้องปรับตัวอย่างหนัก หลังได้รับอิสรภาพจากการถูกลักพาตัวไปนานหลายปี มาร์ค ไรแลนซ์ คว้ารางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม จาก “บริดจ์ ออฟ สปายส์” และอลิเซีย วิแคนเดอร์ รับรางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม จาก “เดอะ เดนิช เกิร์ล” ด้าน “แมด แม็กซ์ : ฟิวรี โร้ด” ภาพยนตร์แอ็คชั่นจากตระกูลแมด แม็กซ์ คว้า 6 สาขา โดยกวาดรางวัลในสาขาเทคนิคพิเศษแทบทั้งหมด พ่วงด้วยเครื่องรางวัลการออกแบบโปรดักชั่น และการแต่งหน้า-ทำผม ขณะที่ “ซัน ออฟ ซอล” ภาพยนตร์จากฮังการี เรื่องราวของชาวยิวในค่ายกักกันนาซี คว้ารางวัลภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศตามความคาดหมาย “อินไซด์ เอาท์” คว้ารางวัลในสาขาภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยม และ “ไรท์ติงส์ ออน เดอะ วอลล์” เพลงประกอบภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ ตอนล่าสุด “สเปกเตอร์” คว้ารางวัลในสาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ทั้งนี้ งานประกาศผลรางวัลออสการ์ปีนี้ได้รับการวิจารณ์อย่างหนักเรื่องการขาดความหลากหลายทางสีผิว เนื่องจากเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันที่ไม่มีนักแสดงผิวสีได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง ซึ่งคริส ร็อก พิธีกรของงานในปีนี้ซึ่งเป็นดาวตลกผิวสี กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวในช่วงของการเปิดงาน ว่างานออสการ์ปีนี้ คืองานสำหรับคนขาว “อย่างเห็นได้ชัด” เนื่องจากสามารถนับจำนวนแขกผิวสีที่มาร่วมงานได้เพียง 15 คนเท่านั้น และหากมีการเสนอชื่อในสาขาพิธีกรยอดเยี่ยม ตนคงไม่มีทางได้มายืนอยู่บนเวทีนี้“

1. ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture)
ได้แก่ Spotlight

2. นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (Actor in a Leading Role)
ได้แก่ Leonardo Dicaprio

3. นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (Actress in a Leading Role)
ได้แก่ Brie Larson

4. นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (Actor in a Supporting Role)
ได้แก่ Mark Rylance จากเรื่อง Bridge of Spies

5. นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (Actress in a Supporting Role)
ได้แก่ Alicia Vikander

6. ภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยม (Animated Feature Film)
ได้แก่ Inside Out

7. ถ่ายภาพยอดเยี่ยม (Cinematography)
ได้แก่ The Revenant

8. กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Directing)
ได้แก่ Alejandro G. Innaritu

9. บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม (Writing Adapted Screenplay)
ได้แก่ The Big Short

10. บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม (Writing Original Screenplay)
ได้แก่ Spotlight

11. ลำดับภาพยอดเยี่ยม (Film Editing)
ได้แก่ Mad Max: Fury Road

12. เครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม (Costume Design)
ได้แก่ Mad Max: Fury Road

13. ภาพยนตร์สารคดีขนาดสั้นยอดเยี่ยม (Documentary Short Subject)
ได้แก่ A Girl in the River: The Price of Forgiveness

14. ภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม (Documentary Feature)
ได้แก่ Amy

15. ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม (Foreign Language Film)
ได้แก่ Son of Saul (ฮังการี)

16. แต่งหน้าและทำผมยอดเยี่ยม (BEST Makeup and Hairstyling)
ได้แก่ Mad Max: Fury Road

17. ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Music – Original Score)
ได้แก่ The Hateful Eight

18. เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Music – Original Song)
ได้แก่ Writing’s on the Wall จากเรื่อง SPECTRE

19. ออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม (Production Design)
ได้แก่ Mad Max: Fury Road

20. แอนิเมชันสั้นยอดเยี่ยม (Short Film Animated)
ได้แก่ Bear Story

21. ภาพยนตร์เหตุการณ์สั้นยอดเยี่ยม (Short Film Live Action)
ได้แก่ Stutterer

22. ภาพยนตร์ลำดับเสียงยอดเยี่ยม (Sound Editing)
ได้แก่ Mad Max: Fury Road

23. ภาพยนตร์บันทึกเสียงยอดเยี่ยม (Sound Mixing)
ได้แก่ Mad Max: Fury Road

24. เทคนิคสมจริงยอดเยี่ยม (Visual Effects)
ได้แก่ Ex Machina

สรุปรวมภาพยนตร์ที่เข้าชิง และรางวัลที่ได้ ดังนี้

The Revenant – เข้าชิง 12 รางวัล – ได้ 3 รางวัล
Mad Max: Fury Road – เข้าชิง 10 – ได้ 6 รางวัล
The Martian – เข้าชิง 7 รางวัล
Bridge of Spies – เข้าชิง 6 รางวัล – ได้ 1 รางวัล
Carol – เข้าชิง 6 รางวัล
Spotlight – เข้าชิง 6 รางวัล – ได้ 2 รางวัล
The Big Short – เข้าชิง 5 รางวัล – ได้ 1 รางวัล
Star Wars: The Force Awakens – เข้าชิง 5 รางวัล
The Danish Girl – เข้าชิง 4 รางวัล – ได้ 1 รางวัล
Room – เข้าชิง 4 รางวัล – ได้ 1 รางวัล
Hateful Eight – เข้าชิง 3 รางวัล – ได้ 1 รางวัล
Brooklyn – เข้าชิง 3 รางวัล
Sicario – เข้าชิง 3 รางวัล
Ex Machina – เข้าชิง 2 รางวัล – ได้ 1 รางวัล
Inside Out – เข้าชิง 2 รางวัล – ได้ 1 รางวัล
Steve Jobs – เข้าชิง 2 รางวัล